ชื่อหลักสูตร
ภาษาไทย: | หลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทาง สาขาเวชปฏิบัติทั่วไป (การรักษาโรคเบื้องต้น) |
ภาษาอังกฤษ: | Program of Nursing Specialty in Nurse Practitioner (Primary Medical Care) |
ชื่อประกาศนียบัตร
ชื่อเต็ม: | ประกาศนียบัตรการพยาบาลเฉพาะทาง สาขาเวชปฏิบัติทั่วไป (การรักษาโรคเบื้องต้น) |
Certificate in Nursing Specialty in Nurse Practitioner (Primary Medical Care) | |
ชื่อย่อ: | ป.เวชปฏิบัติทั่วไป (การรักษาโรคเบื้องต้น) |
Cert. in Nurse Practitioner |
หลักการและเหตุผล
นโยบายสำคัญในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพระบบบริการสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบบริการสุขภาพในระดับปฐมภูมิที่เข้มแข็ง เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถได้รับบริการพื้นฐานให้ทั่วถึงและเข้าถึง (Accessibility) เพียงพอ (Sufficiency) และเท่าเทียม (Equity & Equality) มีคุณภาพ ปลอดภัย และประสิทธิภาพ (Quality, Safety and Effectiveness) ตามกรอบการให้บริการพื้นฐาน ได้แก่ การส่งเสริมศักยภาพของบุคคล ครอบครัว และชุมชน ให้สามารถดูแลตนเองให้มีสุขภาพดี สามารถดูแลตนเองเมื่อเจ็บป่วยได้ สามารถตัดสินใจแสวงหาความช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสุขภาพ
ผลจากการประกาศใช้นโยบายดังกล่าว หลายภาคส่วนได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาระบบบริการ สุขภาพระดับปฐมภูมิ โดยมีเป้าหมายชัดเจนมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ ที่คาดการณ์ไว้ว่าต้องขยายหน่วยบริการปฐมภูมิทั่วประเทศ ถึง ๖,๕๐๐ แห่ง และมีความต้องการของพยาบาลวิชาชีพที่ผ่านการอบรมความรู้ด้านเวชปฏิบัติมากถึง ๑๓,๐๐๐ คน ดังนั้นการพัฒนาบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในหน่วยบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพยาบาลวิชาชีพ ให้มีศักยภาพในการประเมินภาวะสุขภาพ การคัดกรองโรค การรักษาโรคเบื้องต้น การช่วยเหลือในระยะฉุกเฉิน การส่งต่อเพื่อรับการรักษา ตลอดจนการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องที่บ้านและชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องต้องรีบดำเนินการ
พยาบาลวิชาชีพเป็นบุคลากรทีมสุขภาพที่มีบทบาทสำคัญในการจัดบริการสุขภาพ ณ หน่วยบริการ สุขภาพระดับปฐมภูมิ โดยรับผิดชอบดูแลสุขภาพของบุคคล ครอบครัว และชุมชนในการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคเบื้องต้น และการฟื้นฟูสุขภาพ โดยใช้แนวคิดการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ( Continuity of care ) รวมทั้งการจัดการสุขภาพ ( Health management) และเชื่อมโยงบริการระหว่างสถาบัน สถานบริการระดับต่างๆ องค์กร ครอบครัวและชุมชน (Networking ) ภายใต้กรอบ พรบ.การพยาบาลและการผดุงครรภ์ โดยกำหนดให้การประกอบวิชาชีพการพยาบาล สามารถครอบคลุมการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรคได้ และกำหนดให้การรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค เป็นสาขาหนึ่งของการพยาบาลเวชปฏิบัติทั่วไป โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๕ ประกอบด้วยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๒๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๐ และระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อกำหนดในการรักษาโรคเบื้องต้น และการให้ภูมิคุ้มกันโรค พ.ศ. ๒๕๔๕ ระบุไว้ว่า ผู้มีสิทธิกระทำการประกอบวิชาชีพการพยาบาล ตามระเบียบนี้ ต้องได้รับการศึกษา/ ฝึกอบรมตามหลักสูตรที่สภาการพยาบาลกำหนด และต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทางสาขาเวชปฏิบัติทั่วไป ( การรักษาโรคเบื้องต้น) ตามข้อบังคับของสภาการพยาบาลว่าด้วยเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์
อย่างไรก็ตามปัจจุบันพบว่า ปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยยังเป็นการเจ็บป่วยที่เกิด จากพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนและการเข้าสู่สังคมสูงอายุ ทำให้มีผู้เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ภาวะฉุกเฉิน และกลุ่มเปราะบางเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการบริการสุขภาพ และการจัดการสุขภาพในหน่วยบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิเพิ่มขึ้น ดังนั้นการเตรียมความพร้อมสำหรับพยาบาลวิชาชีพ โดยจัดการศึกษาฝึกอบรมเฉพาะทาง สาขาเวชปฏิบัติทั่วไปให้กับพยาบาลให้มีความรู้ และสมรรถนะในการ คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ สร้างสรรค์นวัตกรรม ออกแบบการจัดการสุขภาพให้กับผู้รับบริการและพัฒนาระบบบริการสุขภาพ โดยผ่านกระบวนการศึกษารายวิชาในหลักสูตรครอบคลุมความรู้เกี่ยวกับการประเมินภาวะสุขภาพ การส่งเสริม ป้องกัน การรักษาโรคขั้นต้น การดูแลต่อเนื่องในผู้ที่มีภาวะฉุกเฉินและเรื้อรังในกลุ่มเฉพาะต่างๆ ถือเป็นการพัฒนาคุณภาพการบริการ และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพระบบบริการสุขภาพให้กับผู้รับบริการได้อย่างสอดคล้องกับปัญหาและความต้องการ ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยรวมของประชาชน สอดคล้องกับเป้าหมายสำคัญของการปฏิรูประบบสุขภาพ
ภาควิชาการพยาบาลสาธารณสุขศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีพันธกิจหลักที่ สำคัญในด้านการจัดการศึกษาสำหรับนักศึกษาในสาขาพยาบาลศาสตร์ ทั้งในระดับพยาบาลศาสตรบัณฑิต พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเวชปฏิบัติชุมชน และการพยาบาลเฉพาะทาง สาขาพยาบาลเวชปฏิบัติทั่วไป เพื่อการพัฒนาพยาบาลวิชาชีพให้มีศักยภาพในการประเมินภาวะสุขภาพ การคัดกรองโรค การรักษาโรคเบื้องต้น การช่วยเหลือในระยะฉุกเฉิน การส่งต่อเพื่อรับการรักษา ตลอดจนการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องที่บ้านและชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาพยาบาลวิชาชีพให้สอดคล้องกับระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อกำหนดการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค พ.ศ. ๒๕๔๖ และ นโยบายของสภาการพยาบาลในการพัฒนาพยาบาลวิชาชีพให้มีสมรรถนะในการประกอบวิชาชีพได้เต็มศักยภาพตามเอกสิทธิแห่งวิชาชีพ ภาควิชาการพยาบาลสาธารณสุขศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงกำหนดจัดทำหลักสูตรฝึกอบรมการพยาบาลเวชปฏิบัติทั่วไป (การรักษาโรคเบื้องต้น) หลักสูตร ๒ เดือน สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิตในสาขาวิชาต่างๆ พยาบาลผู้ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติผู้มีความรู้ความชำนาญทางการพยาบาลและผดุงครรภ์สาขาวิชาต่างๆ ตลอดจนอาจารย์พยาบาล เพื่อเป็นการพัฒนาต่อยอดความรู้และเพิ่มเติมทักษะด้านการรักษาโรคเบื้องต้นอย่างมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
๑) ผู้เข้าอบรมมีความรู้เกี่ยวกับการ วินิจฉัยโรค ภาวะเจ็บป่วยเรื้อรังและฉุกเฉิน การรักษาโรคเบื้องต้น การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล ตามข้อกำหนดของสภาการพยาบาล ๒) วัตถุประสงค์เฉพาะ เพื่อให้ผู้เข้ารับการศึกษาอบรม มีความรู้ความสามารถดังนี้ ๒.๑) ประเมินภาวะสุขภาพขั้นสูง และระบุแนวทางการรักษาโรคเบื้องต้นตามข้อกำหนดของสภาการพยาบาลได้ ๒.๒) ใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลตามข้อกำหนดของสภาการพยาบาล ๒.๓) จัดการการดูแล (Care management) ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยระยะท้าย ในกลุ่มที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง ๒.๔) สร้างสัมพันธภาพกับผู้รับบริการ เคารพในสิทธิ์ของผู้รับบริการบนพื้นฐานตามขอบเขตของกฎหมาย จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพได้
โครงสร้างหลักสูตร
จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร | ๗ | หน่วยกิต |
โครงสร้างหลักสูตรมีดังนี้ | ||
ภาคทฤษฎี | ๓ | หน่วยกิต |
(๑ หน่วยกิต = ๑๕ ชั่วโมง) | ||
ภาคปฏิบัติ | ๔ | หน่วยกิต |
(๑ หน่วยกิต = ๖๐ ชั่วโมง) | ||
a (b-c-d) โดยที่ a หมายถึง จำนวนหน่วยกิตรวมทั้งหมด |
รายวิชาในหลักสูตร
วิชาความรู้ความชำนาญเฉพาะสาขา | ||
จำนวน ๗ หน่วยกิต | ||
พยสธ ๕๐๕ | การรักษาโรคเบื้องต้นและการช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉิน | ๓ (๓-๐-๖) |
NSPN 505 | Primary Medical Care and Emergency Care | |
พยสธ ๕๘๓ | ปฏิบัติการรักษาโรคเบื้องต้นและการช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉิน * | ๔ (๐-๑๖-๔) |
NSPN 583 | Primary Medical Care and Emergency Care Practicum | |
* ภาคปฏิบัติ ๑ รายวิชา ๔ หน่วยกิต (๑ หน่วยกิต = ๖๐ ชั่วโมง) |
รายละเอียดรายวิชา
พยสธ ๕๐๕ NSPN 505 |
การรักษาโรคเบื้องต้นและการช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉิน Primary Medical Care and Emergency Care |
๓ (๓-๐-๖) หน่วยกิต |
คำอธิบายรายวิชา
การวินิจฉัยแยกโรคภาวะเจ็บป่วยเล็กน้อยและฉุกเฉินในระบบต่างๆ การรักษาโรคเบื้องต้น การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล การประเมินและการใช้ยาในกลุ่มเปราะบางในชุมชน เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ กลุ่มภูมิคุ้มกันบกพร่อง กลุ่มจิตเวช โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้บริการและจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาล
พยสธ ๕๘๓ NSPN 583 |
ปฏิบัติการรักษาโรคเบื้องต้นและการช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉิน Primary Medical Care and Emergecy Care Practicum |
๔ (๐-๑๖-๔) หน่วยกิต |
วัตถุประสงค์ทั่วไป
ผู้เข้าอบรมมีทักษะการประเมินภาวะสุขภาพวินิจฉัยแยกโรค การรักษาโรคเบื้องต้นทุกกลุ่มอายุ การดูแลกลุ่มผู้ที่เปราะบาง การเลือกใช้ยาอย่างสมเหตุผล การปฐมพยาบาลและช่วยเหลือเบื้องต้นผุ้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน การจัดระบบการรับและส่งต่อผู้ป่วย การดูแลต่อเนื่องที่บ้านและในชุมชน การพัฒนาศักยภาพผู้ป่วยและครอบครัวในการดูแลตยเอง การบันทึกการรักษาพยาบาล การติดตามประเมินผลลัพธ์การจัดการดูแลตามขอบเขตการปฏิบัติและจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาล
คุณสมบัติของผู้เข้ารับการอบรม
คุณสมบัติทั่วไป
๑) เป็นผู้มีความประพฤติดี ประวัติการทำงานดี มีความรับผิดชอบ
๒) ไม่เป็นโรคหรือมีสภาพร่างกายที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาอบรม
๓) ต้องมีใบรับรองจากผู้บังคับบัญชาชั้นต้น และได้รับการอนุมัติให้ลาศึกษาต่อจากผู้บังคับบัญชาของ หน่วยงานนั้นๆ เต็มเวลา
คุณสมบัติเฉพาะ
๑) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี และได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง จากสภาการพยาบาลที่ไม่หมดอายุ
๒) เป็นผู้ที่ได้ปฏิบัติงานด้านวิชาชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า ๒ ปี
๓) ผ่านการคัดเลือกตามเกณฑ์การพิจารณาของคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือก*หมายเหตุ: กรณีอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือก
เกณฑ์การสำเร็จการศึกษา
ผู้เข้ารับการศึกษาอบรมต้องมีระยะเวลาศึกษาอบรม ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติรวมกันไม่น้อยกว่า ร้อยละ ๙๐ ของเวลาการศึกษาทั้งหมด ผู้เข้ารับการศึกษาอบรมต้องได้เกรดเฉลี่ยทุกวิชาตลอดหลักสูตรไม่ต่ำกว่า ๒.๐๐ และเฉลี่ยสะสม ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่าระดับ ๒.๕๐ ตามระเบียบการวัดผลและประเมินผลตามเกณฑ์ของสภา การพยาบาล และข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าด้วยการศึกษาระดับอนุปริญญาและปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๒
Copyright © 2022 -Faculty of Nursing, Mahidol University. All rights reserved. Webmaster: nswww@mahidol.ac.th