สรุปสาระสำคัญจากการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 13.00-13.30 น. ห้อง 704
การส่งเสริมการฟื้นตัวของลำไส้ในผู้ป่วยหลังผ่าตัดระบบทางเดินอาหารด้วยวิธีการเคี้ยวหมากฝรั่ง
แลกเปลี่ยนเรียนรู้โดย อ.เชิดศักดิ์ ดวงจันทร์
ภาวะลำไส้หยุดการเคลื่อนไหวหลังผ่าตัด (postoperative ileus) เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยหลังผ่าตัดระบบทางเดินอาหาร ซึ่งโดยปกติลำไส้สามารถฟื้นตัวกลับมาเคลื่อนไหวเป็นปกติได้เอง โดยที่ลำไส้เล็กจะกลับมาเคลื่อนไหวภายใน 24 ชั่วโมงหลังผ่าตัด ลำไส้ใหญ่จะกลับมาเคลื่อนไหวภายใน 72 ชั่วโมงหลังผ่าตัดแต่หากลำไส้กลับมาเคลื่อนไหวที่นานกว่าปกติ (prolong postoperative ileus หรือ paralytic ileus)จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา ส่งผลให้ผู้ป่วยต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานขึ้น สูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น และมีอัตราการเสียชีวิตในโรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย
การส่งเสริมการฟื้นตัวของลำไส้หลังผ่าตัดมีหลายวิธีด้วยกันหนึ่งในนั้นคือ วิธีการเคี้ยวหมากฝรั่งซึ่งจากการศึกษาในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ และทวารหนักหลังผ่าตัดช่องท้องแบบเปิดในโรงพยาบาลตติยภูมิแห่งหนึ่ง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ระหว่างปี พ.ศ. 2556-2557 จำนวน 64 ราย แบ่งเป็น กลุ่มทดลองจำนวน 32 ราย ได้เคี้ยวหมากฝรั่งแบบแผ่น ชนิดปราศจากน้ำตาล รสผลไม้รวม ครั้งละ 1 ชิ้น วันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็น ตั้งแต่วันแรกหลังผ่าตัดจนกระทั่งเริ่มรับประทานอาหารเหลว และกลุ่มควบคุมจำนวน 32 รายไมได้เคี้ยวหมากฝรั่ง พบว่ากลุ่มทดลองมีอัตราการเคลื่อนไหวของลำไส้หลังเคี้ยวหมากฝรั่งมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.00) กลุ่มทดลองมีระยะเวลาที่เริ่มผายลมครั้งแรกหลังผ่าตัดสั้นกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.04) และกลุ่มทดลองมีระยะเวลาที่เริ่มถ่ายอุจจาระครั้งแรกหลังผ่าตัดสั้นกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.02)
การเคี้ยวหมากฝรั่งสามารถส่งเสริมการฟื้นตัวของลำไส้ได้ เนื่องจาก ในระหว่างการเคี้ยวหมาฝรั่งจะเกิดกลไกย่อย 3 กลไก ได้แก่
1) กลไกการเคี้ยว
2) กลไกการรับรสและ
3)กลไกการรับกลิ่น
โดยกลไกย่อยทั้ง 3 กลไกนี้ จะทำให้เกิดสัญญาณประสาท ซึ่งจะถูกส่งขึ้นไปยัง cerebral cortex จากนั้นจะถูกส่งลงไปยังระบบประสาทส่วนกลางบริเวณ hypothalamus แล้วลงมากระตุ้นเส้นประสาทวากัสที่ไปยังระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นการกระตุ้นในระยะที่อาหารยังไม่ตกลงถึงกระเพาะอาหาร (cephalic phase) เส้นประสาทวากัสที่ถูกกระตุ้นนี้จะไปกระตุ้นเซลล์ประสาทภายในที่อยู่บริเวณกระเพาะอาหาร ลำไส้รวมทั้งตับอ่อนให้หลั่งสารสื่อประสาทเพปไทด์และฮอร์โมนต่างๆ อันได้แก่ acetylcholine, GRP, gastrin, histamine, substance P และ serotonin ซึ่งสารต่างๆ เหล่านี้ล้วนมีฤทธิ์ในการกระตุ้นกล้ามเนื้อเรียบของระบบทางเดินอาหาร ทำให้กล้ามเนื้อเรียบของลำไส้เกิดการบีบตัวและคลายตัวอย่างเป็นระบบ สัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่องเกิดการเคลื่อนไหวของลำไส้จึงทำให้ลำไส้ฟื้นตัวกลับมาทำงานได้เป็นปกติ ซึ่งสามารถประเมินได้โดยการฟังเสียงการเคลื่อนไหวของลำไส้ การผายลมและการถ่ายอุจจาระหลังผ่าตัด
การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นวิธีการหนึ่งที่พยาบาลและแพทย์ ควรนำมาใช้เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวของลำไส้ในผู้ป่วยหลังผ่าตัดระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากเป็นวิธีที่สะดวก สามารถนำไปใช้ได้ง่าย ประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายและมีความปลอดภัยต่อผู้ป่วย
|