พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครอง การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำหรับพยาบาลวิชาชีพ

สภาการพยาบาล  คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาติ ประเทศไทย ได้จัดพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สำหรับพยาบาลวิชาชีพ โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วิจิตร ศรีสุพรรณ นายกสภาการพยาบาล รองศาสตราจารย์ ดร.ฟองคำ ติลกสกุลชัย คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ Mr.Bijaya Rajbhandari ผู้แทนจากองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ประเทศไทย เป็นผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกัน โดยมีรองศาสตราจารย์เพ็ญศรี ระเบียบ เลขาธิการสภาการพยาบาล รองศาสตราจารย์ กรรณิการ์ วิจิตรสุคนธ์ ประธานศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และโภชนาการเด็ก คณะพยาบาลศาสตร์ กรรมการศูนย์ฯและคณาจารย์คณะพยาบาลศาสตร์ และคุณพรธิดา พัดทอง จากองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557 ณ ห้องประชุม ดร.วิเชียร ทวีลาภ อาคารนครินทรศรี ชั้น 3 สภาการพยาบาล

พิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมและปกป้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศไทยเป็นเวลา 3 ปี โดยมุ่งเพิ่มความตระหนักและขีดความสามารถของพยาบาลวิชาชีพทั่วประเทศทุกภาคส่วนทั้งพยาบาลในโรงพยาบาลของรัฐ เอกชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และสถานประกอบการ ให้สามารถช่วยแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้สำเร็จเพื่อการเริ่มต้นที่ดีที่สุดให้กับเด็กทุกคนในประเทศไทย

Mr.Bijaya Rajbhandari ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทยได้กล่าวว่า “การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวเป็นเวลา 6 เดือน และให้นมแม่ร่วมกับอาหารตามวัยจนลูกอายุ 2 ปีหรือนานกว่านั้นเป็นมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกและองค์การยูนิเซฟแนะนำ เพื่อการเริ่มต้นชีวิตที่ดีที่สุดของเด็ก แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวเป็นเวลา 6 เดือนในประเทศไทย อยู่ที่ร้อยละ 12.3 ตามการสำรวจล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของโลกที่ร้อยละ 39”  Mr.Bijaya Rajbhandari ได้ให้คำแนะนำว่าควรมีระบบในการสนับสนุนพยาบาลที่ได้รับการอบรมสามารถได้นำความรู้ที่ได้รับไปใช้ได้จริง และควรมีการวิเคราะห์ปัจจัยที่อาจเป็นปัญหาหรืออุปสรรคที่ขัดขวางการนำความรู้ไปใช้ในสถานการณ์จริง เพื่อสามารถนำความรู้ลงไปสู่การปฏิบัติเพื่อช่วยให้อัตราการเลี้ยงลูกด้วยในแม่ในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วิจิตร ศรีสุพรรณ นายกสภาการพยาบาลกล่าวถึงความสำคัญของการร่วมมือในครั้งนี้ว่า “เป็นครั้งแรกที่เน้นการให้ความรู้และสร้างความตระหนักถึงการสนับสนุนและปกป้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ให้กับพยาบาลวิชาชีพทั่วประเทศ  โดยข้อมูลจากงานวิจัยด้านการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศไทยในหลายปีที่ผ่านมา พบว่าพยาบาลและแพทย์เป็นผู้ที่มีอิทธิพลสูงสุดต่อมารดาในการตัดสินใจเลี้ยงลูกด้วยนมแม่  และพยาบาลเป็นผู้มีส่วนช่วยแม่ให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จมากที่สุด”

รองศาสตราจารย์ ดร. ฟองคำ ติลกสกุลชัย คณบดี คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวเพิ่มเติมว่า “มหาวิทยาลัยมหิดลยินดีเป็นแกนหลัก ในการจัดทำหลักสูตรและวางรูปแบบการจัดอบรมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติให้กับพยาบาลวิชาชีพทั่วประเทศกว่า 2,000 คน ในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเป็นการรณรงค์ในเชิงนโยบายเพื่อให้สถานพยาบาลทั้งของรัฐ เอกชน และสถานประกอบการทั่วประเทศได้เข้าใจถึงความสำคัญในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่  ทั้งนี้ต้องขอบขอบคุณองค์การยูนิเซฟ ที่ให้การสนับสนุนทั้งด้าน งบประมาณและวิชาการตามมาตรฐานสากล”