|
|
|
|
ผลกระทบจากการใช้โทรศัพท์มือถือ |
|
|
นางนันทวรรณ ผ่องมณี
งานบริการการศึกษา ได้จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับสาระน่ารู้ในการใช้ชีวิตประจำวัน ในเรื่อง “ผลกระทบจากการใช้โทรศัพท์มือถือ” วันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 โดย นางนันทวรรณ ผ่องมณี ซึ่งสามารถสรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้
นางนันทวรรณ ผ่องมณี มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่อง “ผลกระทบจากการใช้โทรศัพท์มือถือ” เพื่อจะได้รับรู้ถึงการใช้โทรศัทพ์มือถืออย่างถูกวิธี และรับรู้ถึงผลกระทบที่เกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือ
การแผ่รังสี ของตัวโทรศัพท์มือถือ
การแผ่รังสีของตัวโทรศัพท์และรังสีที่ได้รับจากการใช้โทรศัพท์มือถือ คือ รังสีไมโครเวฟ หากได้รับปริมาณรังสีมากๆ จากการคุยโทรศัพท์เคลื่อนที่นานๆ ทำให้มีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น มีอาการปวดหูปวดศีรษะ ตาพร่ามัวมึนงง ขาดสมาธิ และเกิดความเครียดนอนไม่หลับ อาจทำให้เกิดโรคความจำเสื่อม ผิวหนังเหี่ยวย่น นอกจากนี้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้เกิดการรั่วของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ซึ่งจะสะสมในระบบหมุนเวียนโลหิต ส่งผลให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง เยื่อหุ้มสมองเสื่อม และเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ เสี่ยงกับการเป็นมะเร็งสมอง สำหรับในผู้ชายไม่ควรพกมือถือที่เอว เสี่ยงรับผลกระทบต่อไขกระดูก และอัณฑะ
ข้อแนะนำ
- ควรใช้โทรศัพท์แต่ละครั้งไม่ควรเกิน 15 นาทีต่อ 1 ครั้ง
- ควรใช้อุปกรณ์หูฟังทุกครั้งที่ใช้ เพื่อให้โทรศัพท์อยู่ห่างจากสมองจะทำให้ได้รับคลื่น
แม่เหล็กไฟฟ้าน้อยลง
- ขณะที่มีสายเรียกเข้า ควรกดรับสายให้ห่างจากตัวแล้วเว้นระยะก่อนนำโทรศัพท์มาแนบหู
เพราะขณะที่มีสายเรียกเข้าจะมีคลื่นแม่เหล็กจากโทรศัพท์ ซึ่งเป็นพลังแรงมากที่สุด
- อย่าติดหรือแขวนโทรศัพท์ติดตัวไว้ตลอดเวลา เพราะคลื่นรังสีจะแผ่มาถูกอวัยวะที่สำคัญ
โดยเฉพาะกระดูกซึ่งมีไขกระดูกที่ทำหน้าที่สร้างเม็ดเลือดต่างๆ เช่น กระดูกเชิงกราน และกระดูกที่หน้าอก อาจทำให้มีผลกระทบต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวได้
- หลีกเลี่ยงการใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบ เพราะคลื่นแม่เล็กไฟฟ้าจะผ่านกะโหลกศีรษะ
ของเด็กเข้าสู่เยื่อสมองได้ลึกกว่าของผู้ใหญ่
- หลีกเลี่ยงการใช้ในขณะขับรถ เพราะทำให้ขาดสมาธิ จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
- หลีกเลี่ยงการใช้ในขณะเติมน้ำมันรถยนต์ เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ได้
อันตรายจากแบตเตอรี่โทรศัพท์
แบตเตอรี่หรือไส้แบตเตอรี่ที่เสื่อมคุณภาพแล้ว จัดเป็นขยะอันตรายที่ก่อให้เกิดโทษกับสุขภาพของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลกและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากขั้วลบของถ่านชนิดนี้เป็น "แคดเมียม ไฮดรอกไซด์" เมื่อบรรจุไฟแล้วจะกลายสภาพเป็นแคดเมียม" ซึ่งมีทั้ง สารตะกั่ว ลิเธียม ทองแดง นิเกิล ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบส่วนกลาง ทำให้ระบบหายใจผิดปกติ ไตอักเสบ ไตวาย เกิดอาการหอบหืด หลอดลมอักเสบ ข้อเสื่อม ถุงลมโป่งพอง และทำให้เกิดมะเร็งในอวัยวะได้หลายชนิด เพราะฉะนั้นเมื่อแบตเตอรี่เสื่อมคุณภาพแล้วไม่ควรเก็บไว้ควรนำไปทิ้ง หรือถ้าจะทำลายก็โดยวิธีการฝั่งดิน
ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
-
รองศาสตราจารย์ วิไลวรรณ ทองเจริญ
-
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ช่อทิพย์ สันธนะวนิช
- นางกอบกุล เลาหิตกุล
- นางสาวฉวีวรรณ สาระคง
- ว่าที่ร้อยตรี สุรบดี กลิ่นจันทร์
- นางสาวสุชลิตา ยืนนาน
- นางสาววิลาวัลย์ ดวงล้อมจันทร์
- นางวรรณทิน ยิ่งพัฒนพันธ์
- นางนันทวรรณ ผ่องมณี
- นางสาวแสงจันทร์ สุขสุวานนท์
- นางสาวณัฐพร จุลกนิษฐ์
- นางมณฑา ภู่เภ่ง
นันทวรรณ ผ่องมณี ผู้ลิขิต
|
|